30.1.12

ขนมเต้าทึงแข็ง

ขนมเต้าทึงแข็ง

ใครที่ชอบกินเต้าทึงทั้งแบบร้อน และแบบเย็นคงถูกใจ เพราะเราลองดัดแปลงหน้าตาของเต้าทึงธรรมดา โดยผสมผงวุ้นเข้าไปด้วย จนกลายเป็นขนมเต้าทึงแข็งที่อร่อยนุ่มลิ้น แถมยังสามารถแพคใส่กล่องไว้กินนอกบ้านได้อีกด้วยส่วนเคล็ดลับความอร่อยแบบสุขภาพดี อยู่ที่การใส่เมล็ดธัญพืชอย่าง เม็ดเดือย ถั่วเขียว ถั่วแดงลงไปหรือถ้าใครอยากใส่ข้าวอาร์ซีลงไปด้วยก็ได้ (ข้าวที่ได้หลังต้มน้ำอาร์ซี)ที่สำคัญเมนูนี้ได้ความหวานและกลิ่นหอมชวนกินแบบธรรมชาติจากลำไย เป็นของหวานตบท้ายอาหารมื้อสุขภาพที่น่าลองทำดูค่ะ

ส่วนผสม
ลำไยอบแห้ง 1/2 ถ้วย
เม็ดเดือย (หรือข้าวอาร์ซี)1/2 ถ้วย
ถั่วเขียวต้ม 1/2 ถ้วยเม็ด
บัวต้ม 1/2 ถ้วย
ถั่วแดงต้ม 1/2 ถ้วย
เม็ดแมงลักแช่น้ำ 1/2 ถ้วย
ฟักทองหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปลวก 1/2 ถ้วย
วุ้นผง 2 ช้อนชา
น้ำเปล่า 3 ถ้วยน้ำ
ลำไย 2 ถ้วย

วิธีทำ
ต้มลำไยแห้งให้เดือดจนลำไยบาน พักไว้ให้เย็นผสมวุ้นกับน้ำลำไยที่เย็นแล้ว (ปล่อยไว้ให้น้ำเย็น วุ้นจะได้ไม่เป็นก้อน) จากนั้นเคี่ยวต่อให้เดือดจนวุ้นสุกใส่ธัญพืชทุกอย่างลงไป รอให้เย็น ตักใส่ถ้วย ถ้าอยากเก็บไว้กินนานๆ ให้ใส่ตู้เย็นไว้

Tip
ควรแกะไส้เม็ดบัวออก วุ้นจะได้ไม่ขมคนที่มีปัญหาเรื่องเบาหวาน สามารถใช้น้ำเต้าหู้แทนน้ำลำไยได้เลย

Tip
ต้มถั่วดำถั่วแดงให้สุกเร็ว การต้มถั่วดูเหมือนจะง่าย คล้ายๆกับต้มไข่ แต่จริงๆแล้ว ใครที่เคยต้มทั้งถั่วดำ ถั่วแดง จะรู้ดีว่ากว่าจะต้มสุกได้ต้องใช้เวลานานมาก จนหลายคนเอือม ไม่คิดอยากกินถั่วอีกเลย หรือไม่ก็ไปซื้อเขาสบายกว่าบางคนก็ใช้วิธีแช่น้ำคืนหนึ่งก่อนนำมาต้ม แต่เขาบอกว่าวิธีที่เร็วและสะดวกกว่าคือ ก่อนนำถั่วไปต้ม ให้เอาไป “คั่ว ” ในกะทะให้สุกเสียก่อนเป็นการทำให้สุกครั้งแรกที่ใช้เวลาไม่นาน จากนั้นจึงเอาหม้อใส่น้ำ แล้วใส่ถั่วลงไป โดยกะน้ำให้พอดีกับถั่วที่จะต้ม แล้วตั้งไฟต้ม คราวนี้แหละถั่วที่ต้ม ก็จะสุกเร็วขึ้น เมื่อถั่วสุกก็ใส่น้ำตาลลงไป กะให้หวานพอเหมาะหรือตามแต่ชอบ

ที่มา : ชีวจิต





28.1.12

ถั่วแดงต้มข้าวเหนียวกล้อง

ขนมสุขภาพถ้วยนี้อุดมด้วยสารอาหารนานาชนิด ทั้งโปรตีนชั้นดีจากถั่วแดง ข้าวกล้องให้วิตามินบีช่วยบำรุงระบบประสาท และไฟเบอร์ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีน้ำคั้นใบเตยที่ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง

ส่วนผสม
ถั่วแดงต้มเปื่อย 2 ถ้วย
ข้าวเหนียวกล้อง 1 ถ้วย
น้ำตาลแดง 1/2 ถ้วย
เกลือ 1/4 ช้อนชา
ใบเตย 2-3 ใบน้ำเปล่า 6 ถ้วย

วิธีทำ
1.ถั่วแดงต้มเปื่อย นำมาปั่นพอหยาบๆ
2.ต้มข้าวเหนียวกล้อง กับน้ำเปล่า 6 ถ้วย ใส่ใบเตยลงไป ใช้เวลาประมาณ 30 นาที รอจนข้าวเหนียวกล้องเม็ดบาน หรือลองบีบดูว่าสุกนิ่มแล้ว
3.นำถั่วแดงต้มที่ปั่นหยาบใส่ลงไปในหม้อข้าวเหนียวกล้อง
4.เติมน้ำตาลแดงลงไปในหม้อข้าวเหนียว คนให้เข้ากัน เวลาเสิร์ฟ อุ่นร้อนๆ

Tip:* ใช้ข้าวเหนียวกล้องเพื่อต้องการให้น้ำข้น หรือจะใช้ถั่วดำ ข้าวฟ่างแทนก็ได้ในสัดส่วนเดียวกับที่ใช้ข้าวเหนียวกล้อง* ถั่วแดงยิ่งต้มเปื่อยยิ่งอร่อย* ใบเตยก่อนจะใส่ลงไปต้มกับข้าวเหนียวกล้อง ขยำให้ช้ำสักนิดเพื่อให้กลิ่นหอมออกดียิ่งขึ้น

26.1.12

ขนมหม้อแกงถั่วแดง


ส่วนผสม
ถั่วแดงหลวง 1 ถ้วย
มะพร้าว 1/2 กิโลกรัม
น้ำตาลปี๊บ 1+1/4 ถ้วย
ไข่ไก่ 5 ฟองหัว
หอมแดงเจียว 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.แช่ถั่วแดงหลวงค้างคืน แล้วนำมาต้มให้สุก ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วเทน้ำออกผึ่งให้แห้ง จึงนำมาบดให้ละเอียด
2.คั้นมะพร้าว ใส่น้ำ 1 ถ้วย คั้นให้ได้กะทิ 1+1/2 ถ้วย
3.ละลายน้ำตาลปี๊บกับกะทิ และไข่ไก้ ให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบาง
4.นำส่วนผสมของกะทิ ใส่ถั่วแดงบดลงไป คนให้เข้ากัน จึงเทลงในกระทะทอง นำไปตั้งไฟ กวนพอสุก จะข้อน ยกลง เทใส่ถาดขนาด 8x8 นิ้ว นำเข้าเตาอบ ใช้ไฟ 190 องศาเซลเซียส ประมาณ 25 นาที พอหน้าเกรียมก็นำออกมาตัดเป็นชิ้นตามต้องการ โรยหน้าด้วยหอมเจียวหมายเหตุ"ขนมหม้อแกงถั่วแดง" เป็นขนมหม้อแกงที่ให้โปรตีนจากถั่วแดงแทนการใช้เผือก ถั่วลิสงธรรมดา รสชาติอร่อยดี เป็นการนำเอาขนมไทย ๆ มาเสริมคุณค่าทางอาหารให้สูงขึ้น

15.1.12

ซ่าหริ่ม


 

ส่วนผสม
แป้งถั่วเขียว 5 ถ้วยตวง
น้ำใบเตย 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
น้ำดอกมะลิ 6 ถ้วยตวง
มะพร้าว 1/2 ถ้วยตวง
น้ำ 5 ถ้วยตวง


วิธีทำ
1.นำแป้งผสมกับน้ำใบเตย น้ำ กรองให้สะอาด ใส่กระทะทอง กวนให้สุก
2.นำเครื่องกดซ่าหริ่ม วางบนถังน้ำเย็นใส่แป้งที่คนไว้กดให้ตัวยาว เปลี่ยนน้ำเย็นอีก 1 ครั้ง แช่ให้ตัวซ่าหริ่มเย็น
3.ผสมน้ำดอกมะลิกับน้ำตาล ตั้งไฟเคี่ยวให้เป็นยางมะตูม
4.คั้นกะทิเอาหัวกะทิ 2 ถ้วยตวง ตั้งไฟให้เดือด (ต้องคอยคนอย่าให้เป็นลูก)
5.เวลาจะรับประทาน ตักตัวซ่าหริ่มผสมน้ำเชื่อมและหยอดหัวกะทิ ใส่น้ำแข็ง

13.1.12

บ้าบิ่น





ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลมะพร้าว 1/2 ถ้วยตวง
มะพร้าวขูดแล้ว 1 ถ้วยตวง
น้ำมันมะพร้าว 1ถ้วยตวง
น้ำดอกไม้สด 3 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1.คั้นมะพร้าวด้วยน้ำดอกไม้สด
2.ผสมลงในแป้งข้าวเหนียวและน้ำตาล คนให้ละลายเข้ากัน กรองให้สะอาด
3.นำแป้งใส่กระทะตั้งไฟกวนให้ข้น ยกลงตักใส่ภาชนะที่ผิงไฟได้
4.ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ แล้วผิงอย่างขนมหม้อแกง ให้ขนมสุกเหลือง จึงจะใช้ได้
5.ยกลงทิ้งให้เย็น แล้วตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมตามต้องการ

11.1.12

ปากริมไข่เต่า


 

ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง
แป้งมัน 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลปีบ 1 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง
หางกะทิ 5 ถ้วยตวง
น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1ช้อนชา
น้ำเล็กน้อย


วิธีทำ
1.ผสมแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน ผสมน้ำและน้ำปูนใส นวดพอปั้นได้ แบ่งแป้งออกเป็นสองส่วน ตัวปลากริมปั้นแหลมหัวท้ายมากๆ ไข่เต่ารีเล็กน้อย
2.ตั้งน้ำให้เดือด นำแป้งแต่ละส่วนต้มสุกลอยช้อนขึ้นใส่ในน้ำเย็น ตักขึ้นพักไว้
3.เอาหัวกะทิตั้งไฟให้เดือด ยกลง
4.กะทิที่เหลือแบ่งออกเป็นสองส่วน
ส่วนที่หนึ่ง ผสมกับน้ำตาลปีบตั้งไฟให้เดือด นำตัวปลากริมที่เตรียมไว้ใส่ พอเดือด ยกลง
ส่วนที่สอง ผสมเกลือป่นให้มีรสเค็มนิดหน่อย ใส่แป้งไข่เตาลงไป พอเดือด ยกลง
5.เวลาจัดเสิร์ฟจัดทั้งสองอย่าง ให้สีแดงอยู่ชั้นล่าง สีขาวอยู่ชั้นบนราดหัวกะทินิดหน่อย

Rainbows Jelly in Thai, Woon Sai Roong

Prepare:
2 tbsp. gelatin powder

10 cups water with jasmine flavor
3 cups sugar

Coconut Layers:
2 tbsp. gelatin powder

4 cups water with jasmine flavor
6 cups thick coconut milk
1 and 1/2 cup sugar
2 tsp. salt
1/4 cup rice flour

Color Jelly layers:
1/2 cup concentrated pandanus juice

2 tsp. coffee
2 colors of food coloring (pink, yellow)

Cooking Instructions:
1. Add gelatin and sugar in water. Boil it until they are dissolved.
2. Divide it into 4 cups and mix with the food coloring, pink, green, yellow

and brown from coffee.
3. Dissolve gelatin and sugar in boiling water to make the top surface.

Mix coconut milk, sugar, salt and rice flour together in a bowl. Pour it in
a gelatin pot. Cook until it’s boiling. Remove from the stove.
4. Now, in any shape tray, pour gelatin as the color you like while the gelatin is still hot. I will pour coffee jelly first, coconut milk, pink and then coconut milk again, then yellow follow by coconut milk one more time, green jelly from pandanus juice and the last top layer is coconut milk.
5. Leave it cool in refrigerator for 20 minutes. After that, eat!


9.1.12

ข้าวตู




ส่วนผสม
ข้าวสุกตากแห้ง 3 ถ้วยตวง
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 3/4 ถ้วยตวง
มะพร้าวขูด 1/2 กิโลกรัม
น้ำตาลมะพร้าว 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
เทียนอบ
ดอกมะลิ
พิมพ์


วิธีทำ
1.นำข้าวสุกที่ตากแห้งไปคั่วให้เหลืองกรอบ หรือจะใช้ข้าวตังที่เป็นเศษๆ มาคั่วก็ได้ พอเย็นนำไปบดหรือโขลกให้ละเอียด แล้วร่อนโดยใช้ตะแกรง
2.คั้นกะทิโดยใช้น้ำลอยดอกมะลิ คั้นให้ได้ประมาณ 3 ถ้วยตวง แล้วเอาน้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทรายละลายในน้ำกะทิ กรองให้สะอาด
3.นำไปใส่หม้อหรือกระทะทอง ยกขึ้นตั้งไฟ พอเดือดใส่มะพร้าวทึนทึกลงกวนให้เข้ากัน กวนจนกะทิงวดเกือบแห้งจึงใส่ข้าวคั่วลง แล้วกวนต่อจนแห้งเป็นก้อน (อย่าใช้ไฟแรง) พอเย็นจึงใช้พิมพ์กดเป็นรูปต่างๆ
4.ถ้าไม่มีพิมพ์ก็ใช้วิธีปั้นเป็นก้อนกลมรีก็ได้ เสร็จแล้วนำใส่ขวดโหล อบด้วยควันเทียน และดอกมะลิ

4.1.12

Lawt Chong (Coconut noodle dessert)

Prepare:
2 cups rice flour
1 cup palm sugar
7 aromatic pandanus leaves
7 cups lime water(white wash)
2 cups coconut milk
1/2 tsp. salt
1/2 cup water
1 cup water with jasmine flavo
ur1 can

Instruction:
1. Cut pandanus leaves in small pieces and crush it finely. Mix with dringing water and squeeze out the juice. Throw away the residue.
2. Put rice flour in a bowl. Gradually pour pandanus juice and lime water in the bowl. Mix it altogether. Use all the juice.
3. Strain the mixed flour on filter cloth. Put the juice you get in a pan. Cook it with low heat and keep stirring until it gets thick and mix well.
4. Don’t let it gets too thick or too mushy.
5. Prepare cold water in a big bowl. Then, make 5-7 holes on the can bottom.
6. Put stirred rice flour in the can and press it out into the cold water. Make the noodle about 1 inch long. The water should be cold always.
7. Next, boil coconut milk and water with jasmine flavour on low heat. Add salt and palm sugar (if u don’t have palm sugar, regular sugar is ok). Turn off the fire when it’s boiling.
8. Leave it cold. After that, add sliced jackfruit. Top with jasmine and crushed ice.

Don’t eat the flowers!!
Jasmine Flavour:Thai people use jasmine flower with many kinds of desert. We pick jasmine petals and float them in a bowl of the water. Then, cover the bowl and leave it there for one night. Throw away the petals and you will find out that water smell incredibly sweet.

Since the commercially processed jasmine nowadasy is all covered with chemical stuff to keep the flower away from bugs, you can use jasmine flavour which u can get it from any mall.


3.1.12

แตงไทยน้ำกะทิ

 


ส่วนผสม

แตงไทยสุกหนัก 800 กรัม 1ผล
น้ำแข็งทุบละเอียด 2 ถ้วยตวง
กะทิขาวข้นปานกลางคั้นด้วยน้ำดอกมะลิ 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลปีบ 1/3 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1.ล้างแตงไทยทั้งเปลือกให้สะอาด ตัดขวางผลกว้าง 1 นิ้ว ปอกเปลือกออก คว้านไส้ออกหั่นหนา 1/2 นิ้ว ตวงได้ 6 ถ้วยตวง
2.ทำน้ำกะทิโดยผสมส่วนผสมทั้งหมดรวมกัน คนให้ละลาย กรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำส่วนผสมตั้งไฟอ่อนปานกลาง พอเดือดยกลง ควรตั้งไฟคนบ่อยๆ
3.วิธีเสิร์ฟ ตักแตงไทยใส่ถ้วยของหวานเฉพาะคน 1/3 ถ้วยตวง ใส่น้ำกะทิ 3 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำแข็งทุบ 1 ช้อนพูน เสิร์ฟทันที